ว่ากันว่าน้ำมันเมล็ดชาชนิดนี้อ อยู่คู่ครัวหลวงของจักพรรดิจีนมากว่า ๑๐๐๐ ปี และอีกหลายประเทศทั่วโลกนิยมใช้น้ำมันเมล็ดชาแทนน้ำมันพืชทั่วไป โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลียที่เราท่านต่างก็ทราบดีว่าประชาชนของเขา ล้วนให้ความใส่ใจต่อสุขภาพของตนเองและคนที่รักในครอบครัวมากเพียงไร
เหตุใด "น้ำมันเมล็ดชาคามิเลีย" จึงดีต่อสุขภาพ ถ้าพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอก ผู้ที่เคยใช้ย่อมสัมผัสได้ถึงสีของน้ำมันที่ใช้ สะอาด และส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะสำหรับมีติดครัวไว้ประกอบอาหารทั้งผัด ทอด ปิ้ง ย่าง อบ รวมถึงใช้เป็นส่วนผสมของซอส หรือแม้แต่ทำน้ำสลัดทำขนมอบก็ใช้รสชาติที่อร่อยไม่แพ้กัน
คราวนี้เราจะมาลงลึกถึงสรรพคุณของ "น้ำมันเมล็ดชาคามิเลีย" กันต่อว่ามีคุณสมบัติพิเศษอย่างไรทำไมชาวจีนและญี่ปุ่นจึงนิยมบริโภคน้ำมันเมล็ดชากันมาก ในวงวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็มีคำตอบให้แล้วว่า น้ำมันเมล็ดชาล้วนมีสารช่วยต้านอนุมูลอิสระ ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่จำเป็นต่อร่างกายสูงมากถึง ๘๘% สามารถป้องกันโรคเบาหวาน ลดความดันในกระแสโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอล ป้องกันการเกิดโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือดหัวใจ
มีรายงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นและจีน บ่งบอกว่าน้ำมันเมล็ดชาเป็นแหล่งรวมของวิตามิน A,B,D,E โดยเฉพาะวิตามิน E ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาน้ำมันให้นานขึ้นด้วย และที่สำคัญ ไร้สารอะฟลาทอกซินแต่มีสารป้องกันอนุมูลอิสระธรรมชาติเรียกว่า โพลีฟีนอล (Polyphenol) ซึ่งผลวิจัยเชื่อว่าป้องกันการเกิดเนื้องอกลดการสร้างตัวของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ในเม็ดเลือดแดง ทำให้ไม่เกิดโรคหลอดเลือดแดงตีบตัน
คุณสมบัติพิเศษอีกประการหนึ่งของ "น้ำมันเมล็ดชาคามิเลีย" ก็คือมีจุดเกิดควันสูงถึง ๒๕๒ องศาเซลเซียส นั่นหมายถึงว่าแม้คุณพ่อบ้านแม่บ้านจะใช้ความร้อนสูงในการปรุงอาหารก็ไม่ส่งผลให้คุณค่าที่ได้จากตัวน้ำมันเมล็ดชาหรืออาหารสูญเสียไปแต่อย่างใด แถมยังมีสาร Saponin ที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อต้านเชื้อไวรัส แบคทีเรียอีกด้วย
ฐาปานิตา
รู้เฟื่องเรืองสุขภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น