วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

พฤติกรรมใช้ของก๊อป

เคยรู้สึกไหมว่าช่วงหลังๆมานี้วงการเพลงในประเทศไทย มันถึงได้ไม่ค่อยมีอะไรสร้างสรรค์ ไปฟังเพลงจากต่างด้าวดีกว่า

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคนที่มีหน้าที่สร้างสรรค์ผลงาน (ศิลปิน) หมดหนทาง พวกเขาต่างเคยสร้างสรรค์ผลงานออกมาแล้วก็ถูก เราๆนี่แหละ ทรยศ ด้วยการซื้อเทปผีซีดีเถื่อน... มันอาจจะไม่ได้ส่งผลกระทบฉับพลันแบบซื้อวันนี้พรุ่งนี้เจ๊ง แต่มันส่งผลยาวนาน และลงลึกไปกว่าที่เราคิดไว้มาก

จะเห็นได้ว่าความก้าวหน้าของดนตรีไทยจากที่เคยเป็นหนึ่งในห้าของทวีป ตอนนี้เราตกไปอยู่ลำดับที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ และก็ไม่รู้จะกลับมาได้หรือไม่

ต่างๆเหล่านี่เป็นสิ่งที่เราต้องช่วยกันทำให้ถูกทิศทาง เพื่ออนาคตเราจะได้ไม่ต้องมาบ่นให้ลูกหลานฟังว่า "เพลงเดี๋ยวนี้มีแต่อะไร กระโหลกกระลาไร้สาระ" เหมือนกับที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่เรากำลังบ่นให้เราฟังในตอนนี้ ซึ่งก็ควรจะรวมถึงการ งดให้การสนับสนุนศิลปินที่ทำการลอกผลงานของศิลปินคนอื่นด้วย

การลอกเป็นสิ่งน่าละอาย เราทุกคนควรเคารพการสร้างสรรค์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครสมควรทำแบบนั้นยกเว้นเสียแต่จะได้รับความยินยอมจากเจ้าของผลงาน

การลอกผลงานคนอื่นน่ารังเกียจอย่างไร?
ก็ลองคิดดูว่า ขณะที่เรากำลังทำข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ อยู่นั้น เพื่อมาลอกคำตอบเรา(ลอกทุกสิ่งอย่างตลอดระยะเวลาการเรียนตั้งแต่ประถมยันจบปริยญาตรี) และท้ายที่สุดทั้งเพื่อนและเราต่างจบการศึกษา ออกไปทำงาน... เพื่อนได้ไปเป็นครู
คิดว่าครูคนนั้นจะมีความรู้มากน้อยเท่าไหร่กัน? ครูคนนั้นจะสั่งสอนอะไรนักเรียนได้บ้าง? นักเรียนที่ได้รับการสั่งสอนจากครูคนนั้นจะเป็นอย่างไร? ประเทศจะเป็นอย่างไร?

ยอมรับซะเถิดว่าการลอกเป็นสิ่งน่ารังเกียจ...



วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

โถ... ปลวกเอ๊ย


อ่านขำๆ นะคับ อย่าพยายามโยงไปเข้ากับเรื่องใดๆ

"ตัวเชี่ยไรวะ โคตรโง่เลยแมร่ง แดกไรไม่แดก แดกไม้!!

อร่อยป่ะน่ะ?"


สืบเนื่องจากประโยคด้านบน ด้วยความข้องใจ ไม่เข้าใจ และเข้าไม่ถึงความคิดของปลวกพวกนี้ อยากจะรู้เหลือเกินว่าพวกมันทำไปเพื่ออะไรกัน พวกมันมีประโยชน์อย่างไรกับโลกใบนี้ หากขาดปลวกแล้ว ระบบนิเวศจะเป็นเช่นไร โลกจะล่มสลายหรือไม่ และอีกหลายคำถามที่รุมเร้าเข้ามาให้ต้องสืบค้นชีวิตแบบปลวกๆ เพื่อตอบคำถามดังกล่าวข้างต้น

1. กินไม้ทำไม? เป็นคำถามที่ผมอยากรู้ที่สุดตอนนี้ ผมได้ลองแกะไม้ออกมาดู...จากไม้ที่เคยเป็นท่อนหนาแน่น ตอนนี้เหลือเพียงเปลือกไม้บางๆ หุ้มอยู่ภายนอกเท่านั้น ภายในกลายเป็นดินที่บรรดาปลวกอุตส่าห์ไปคาบมาทีละนิด เพื่อนำมาไว้ในไม้เป็นรังของพวกมัน...เฮ้อ!! อนาจหนอ... ในเมื่อพวกเมิงจะเอาดินมาทำเป็นรัง ทำไมไม่ขุดรูอยู่ในดินไปเลยวะ อุตส่าห์ไปคาบดินมาจากแสนไกลแล้วกินไม้เพื่อให้มีช่องว่างเพื่อถมที่ของพวกเมิง ไม่น่าเชื่อว่าตัวเล็กแค่นี้ หนังกระเพาะเมิงจะหนาได้เพียงนี้ ขนาดกินไม้เข้าไปได้ ระบบย่อยอาหารของพวกเมิงต้องไม่ธรรมดา กุเป็นคนตัวใหญ่ขนาดนี้ ถ้ากินไม้เข้าไปคงโดนเสี้ยนไม้ตำกระเพาะตายอนาจเป็นแน่


2. ทำไมจึงเกิดเป็นปลวก? เป็นคำถามต่อมาที่ผมอยากรู้ สืบเนื่องจากรู้สึกสงสารปลวกเป็นอย่างยิ่งที่ชาตินี้ต้องกินไม้ ไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสของอร่อยๆ อย่างเช่น The Pizza, ไก่ทอด KFC, MK suki, Fuji ฯลฯ จึงทำให้คิดว่า ชาติที่แล้วมันต้องทำกรรมหนักหนาไว้แน่ๆ จึงทำให้ชาตินี้มีสมองเพียงน้อยนิด แยกไม่ออกว่าอะไรอร่อย อะไรไม่อร่อย อะไรควรกิน อะไรไม่ควรกิน หรือมันอาจเคยเป็นอำมาตย์ ข้าราชบริพาร นักการเมือง ไส้ศึกที่คิดไม่ดีต่อบ้านเกิดเมืองนอน อาจทำการคอรัปชั่นกินบ้านกินเมืองของตนเอง ยมบาลจึงทำโทษ “ในเมื่อพวกเมิงอยากกินบ้านกินเมืองกันนัก ก็จงไปเกิดเป็นสัตว์กินไม้ซะ!!” อะไรประมาณนี้

3. ปลวกมีประโยชน์อย่างไรกับระบบนิเวศ? อันว่าปลาใหญ่กินปลาเล็ก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ยกตัวอย่างระบบนิเวศง่ายๆ คนกินวัว วัวกินพืช พืชโตด้วยปุ๋ยที่คนอึไว้ แล้วปลวกล่ะ? ปลวกกินไม้เป็นอาหาร ทำลายไม้ที่คนใช้สร้างบ้าน ถึงไม่มีปลวก ถ้าคนอยากจะทำลายไม้ คนก็มีปัญญาพอที่จะเผามันเองได้ หรือเอาไปทำฟืนหุงหาอาหารยังจะมีประโยชน์กว่าปล่อยให้ปลวกกิน เอ๊ะ! หรือชีวิตของปลวกจะเป็นประโยชน์ให้กับสัตว์ตัวใดในโลกนี้หรือ กุก็ไม่เคยได้ยินนะว่าจะมีตัวอะไรกินปลวกเป็นอาหาร แล้ว...พวกเมิงเกิดมาเพื่ออะไรกันนี่ อนิจจา...หากพวกเมิงจะมีสมองพอที่จะเข้าใจสิ่งที่กุพูด กุจะยอมเกิดเป็นปลวกซักชาตินึงเพื่อไปสั่งสอนพวกเมิงว่า ควรดำเนินชีวิตเช่นไร ถึงชีวิตของพวกเมิงจะไม่มีประโยชน์ใดๆ ต่อระบบนิเวศนี้เลย ก็ไม่ควรทำตัวให้เป็นที่เดือดร้อนของผู้อื่น

4. โลกจะล่มสลายหรือไม่? จากข้อ 3 ทำให้เข้าใจได้ว่า โลกอยู่ได้แน่นอนโดยไม่มีปลวก การมีปลวกซะอีกอาจนำมาซึ่งความล่มสลายจากจุดเล็กๆ ไปสู่จุดใหญ่ๆ จากบ้านไปสังคม จากสังคมไปประเทศชาติ และจบลงด้วยความล่มสลายของโลกใบนี้ สวรรค์! ถ้าชีวิตของพวกเมิงจะไร้ค่าถึงเพียงนี้ ก็จงอย่าอยู่ต่อไปให้อายคนเขาเลย เรามาช่วยกันกำจัดปลวกเถอะ เจอมันที่ไหน ฆ่ามันที่นั่น อย่าปล่อยให้ปลวกลอยนวล...!!!




Jimmy
http://www.pantip.com/cafe/isolate/topic/M11332472/M11332472.html

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

เพราะความสวยรอไม่ได้


ได้อีก รีบได้อีก ไม่รู้เจ๊แกจะรีบสวยไปไหนกัน สาธุ...

ไฟตัดหมอก ไฟเดย์ไลท์ ตีจูเอี๊ยะ


พักหลังๆมานี้ เวลาขับรถตอนกลางคืนจะได้เห็นอะไรแปลกๆ ซึ่งจะขอเล่าไล่เรียงมาเป็นยุคๆเลยดีกว่า

ยุคแรก
จะพบไฟหน้าสูงข้างต่ำข้าง แบบปกติแล้วไฟข้างซ้าย(เมื่อนั่งอยู่ในรถ)จะสูงและกว้างกว่าไฟข้างขวา ซึ่งมันไม่ได้ก่อให้เกิดความรำคาญอะไรมากนัก เพราะอีข้างที่มันไม่สูง มันไม่ได้ส่องมาเข้าตารถคันที่ขับสวน แต่!!! ไม่รู้ผีห่าซาตานอะไรเข้าสิง พี่ๆเลยไปดัดแปลงให้ข้างขวาสูงกว่าข้างซ้าย ประหนึ่งว่าตูขับข้างนี้ ไฟข้างนี้ก็ต้องสูง ตูจะได้เห็นชัดๆ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง (คนอื่นตาพร่าชั่งหัวพวกมัน ?!?!?!?!)
หรือบางทีอาจจะมาจากการนำโคมไฟหน้าของรถรุ่นเดียวกันแต่ต่างประเทศมาใช้งาน ซึ่งก็บังเอิญว่าเป็นประเทศที่ขับรถพวงมาลัยซ้าย

ยุคต่อมา
ไฟหน้าหลากสี เนื่องด้วยความเบื่อหน่ายหรืออะไรไม่ทราบ แต่มีผู้เป็นเจ้าของรถหลายคนจัดแจงเปลี่ยนไฟหน้าให้เป็นสีต่างๆ ตั้งแต่สีรุ้ง สีเขียว สีแดง สีม่วง สีชมพู ฯลฯ ซึ่งเป็นการรบกวนสายตาอย่างมาก ยุคนี้จะเป็นการใช้หลอดไฟสี หรือไม่ก็ติดฟิล์มสีๆที่โคมไฟ
ยุคนี้มีการใช้หลอด LED หลากสีมาประดับรถกันมาก จะบอกว่าที่อยู่บนรถคันใหญ่ๆอย่างหกล้อสิบล้อรถบัสนั้นมีประโยชน์มาก ทำให้เรารู้ความสูงและความกว้างของรถ เวลาขับเร็วๆเราจะกะระยะได้ง่ายมาก
แต่กับรถยนต์นั่งหรือรถกระบะบางคันท่านติดเยอะมากกกกกกก ประหนึ่งตีจูเอี๊ยะก็ไม่ปาน ท่านเจ้าของรถคงเป็นบุคคลที่นับถือเจ้าที่เจ้าทาง ...สาธุ

ยุคที่สาม
ไฟซีน่อน และไฟตัดหมอก เป็นยุคที่เทคโนโลยีไฟหน้ามาถึงจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ จากหลอดฮาโลเจน เป็นหลอดซีนอน ซึ่งการทำงานต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลอดซีน่อนกินไฟน้อยกว่าแต่สว่างมากกว่าหรือเท่าๆเดิม การดัดแปลงโคมเดิมมาใช้กับหลอดซีน่อนจะทำให้ลักษณะการกระเจิงของแสงผิดไปจากเดิม และแยงตาชาวบ้านอย่างร้ายแรง มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งพวกชอบเปิดไฟตัดหมอกเรี่ยราดเพราะ ไฟตัดหมอกจะไม่มีโฟกัส มันจะกระจายไปหมด เพื่อให้รถคันที่ขับสวนมามองเห็นในสภาพอากาศเลวร้ายสุดๆหมอกควันหรือฝนตกหนักมาก... ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการขับตอนกลางคืนซักเท่าไหร่ ไม่รู้จะติดกันทำไม ติดให้โคตรพ่อโคตรแม่บรรพบุรุษของพี่ๆในปรโลก ลุกขึ้นมาเต้นแจ๊สแดนซ์หรือไงก็ไม่ทราบ
เพลีย!!!