วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

กรุงศรีอยุธยากับโลกภายนอก

ประวัติศาสตร์โลก ได้บันทึกถึงการก่อสร้างอนุสาวรีย์แห่งความรักของกษัตริย์อินเดียในราชวงศ์โมกุลองค์หนึ่งไว้ เมื่อ พ.ศ.2137-2196 ยี่สิบปีของความยากแค้นของช่างก่อสร้างมากมาย ที่ถูกเกณฑ์มาเพื่อสร้างทัชมาฮาล อนุสรณ์สถาน หรือสถานบรรจุพระศพพระนางมุมทัชมาฮาล พระมเหสีสุดที่รักของชาห์เจฮาน ชาห์เจฮานมีโครงการจะสร้างอาคารลักษณะเดียวกับทัชมาฮาลที่อีกฝั่งของแม่น้ำ แต่ใช้หินสีดำ เพื่อเคียงคุ่กันริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองฟาก แต่ถูกโอรังเซบโค่นบัลลังก์ยึดอำนาจเสียก่อน


เมื่อผู้ปกครองมัวแต่สนใจการก่อสร้างสุสาน อังกฤษซึ่งกำลังขยายอำนาจก็เข้ายึดอินเดียไปได้เป็นบางเมื่อง เช่นในปี พ.ศ.2185 อังกฤษยึดเมืองมัทราส นอกจากพยายามยึดครองอินเดียไปทีละนิดๆแล้ว อังกฤษยังเดินเรือไปพบทวีปออสเตรเลีย หมู่เกาะแถบนั้น เช่นนิวซีแลนด์ ทัสเมเนีย ฯลฯ

ประเทศจีนอันกว้างใหญ่ไพศาลก็แตกแยก ราชวงศ์หมิงล่มสลาย ชนเผ่าแมนจูทางตอนเหนือของจีนเข้ายึดครองประเทศจีนทีละส่วนๆ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2187 เรื่อยมา เหตุการณ์ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยา ฝรั่งเริ่มเข้าประเทศไทยและมีบันทึกในประวัติศาสตร์ว่าในรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้มีการติดต่อกับชาวตะวันตก มีการส่งราชทูตไทยไปยุโรป รัชการสมเด็จพระนารายณ์นี้ ตรงกับรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศษ แต่อังกฤษกำลังมีปัญหาชิงอำนาจภายในประเทศ

อาณาจักรออตโตมันของชาวเติร์กก็เสื่อมสลายลงในช่วงนี้เช่นกัน สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศษ ดัทช์ ไม่มีปัญหาต้องระวังพวกเติร์ก ก็พากันแสวงหาอาณานิคม เสาะหาสมบัติ ตั้งบ้านเรือนใหม่ในทวีปอเมระิกาที่เพิ่งค้นพบ อังกฤษเข้ายึดอินเดีย (บางส่วน) ลังกา ชาวดัทช์ยึดสุมาตรา ชวา และหมู่เกาะใกล้เคียง นอกจากนั้นยังทำการค้ากับจีน เข้าไปในคราบของพ้อค้าเช่นเดียวกับที่เข้าไปในอินเดีย แต่มีเจตนาที่จะยึดอำนาจ ชาวยุโรปขยายอำนาจเข้ายึดครองแอฟริกา อพยพไปอยู่ทวีปใหม่ เพราะอุดมสมบูรณ์ เพาะปลูกพืชได้หลายชนิด อากาศก็มีต่างๆกัน สามารถปลูกอ้อย ฝ้าย พืชพันธุ์ต่างๆที่ยุโรปปลูกไม่ได้ ส่งไปเลี้ยงดูพลเมืองในเมืองแม่ การขยายดินแดนอย่างรวดเร็วทำให้ขาดแรงงาน วิะีแก้ความขาดแคลนของนักล่าอาณานิคมก็คือส่งคนไปไล่จับคนผิวดำในแอฟริกา คนป่าเผ่าต่างๆมาเป็นทาสแรงงาน มีการซื้อขายทาสแรงงานกันราวกับเป็นสินค้า ปัญหาคนดำในอเมริกาจึงเรื้อรังมาอีกหลายร้อยปี จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งปัญหาชนพื้นเมืองอินเดียนแดงเผ่าต่างๆอีกด้วย

ทางตอนเหนือของยุโรปเชื่อมต่อกับเอเชีย รัสเซียกำลังเจริญรุ่งเรืองในรัชสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช ในราว พ.ศ.2225 - 2268 ตรงกับปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชปลายกรุงศรีอยุธยา ซึ่งในระยะนี้ไทยมีการติดต่อกับชาวตะวันตก แต่ห่างไปในสมัยพระเพทราชา รัชกาลต่อจากสมเด็จพระนารายณ์ เพราะพระเพทราชาไม่ชอบคบหาพวกฝรั่ง อาจจะทรงมองออกถึงความไม่หวังดีของคนเหล่านี้ อยุธยาในระยะนี้ปลอดศึกพม่า เพราะพม่ามีสงครามภายในระหว่างพม่ากับมอญ พม่ากับแคว้นฉาน เมื่อพม่าปราบปรามพวกที่ตั้งตนกระด้างกระเดื่องภายในเรียบร้อยแล้วจึงหันมามองทางประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งในสองรัชกาลสุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งขณะนั้นกำลังเสื่อมอำนาจอย่างมาก เพราะปัญหาระหว่างพี่น้อง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสำเร็จโทษเจ้าฟ้าธรรมธิเบษร์องรัชทายาท เจ้าฟ้าอุทุมพรกับเจ้าฟ้าเอกทัศน์มีปัญหาการสืบราชสมบัติ พม่าจึงยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ.2310


สครามสร้างวีรบุรุษ เมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียเอกราชครั้งสุดท้ายนี้ ไทยก็ได้มหาราชองค์ใหม่คือพระเจ้าตากสิน แต่ได้ย้ายเมืองหลวงไปอยู่ ณ กรุงธนบุรี คนละฟากแม่น้ำกับกรุงเทพฯ เมืองหลวงปัจจุบันในปีเดียวกับที่เสียกรุงนี่เอง


ส.ส.ส.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น