วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2554

นิยายพื้นเมืองลพบุรี - นางผมหอม





นิยายพื้นเมืองที่เล่าต่อๆกันมามักมีเรื่องราวผูกพันกับชื่อของสถานที่ต่างๆ เรื่องนางผมหอมก็เป็นนิทานโบราณเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับปราสาทนางผมหอม

ปราสาทที่กล่าวนี้เป็นปรางค์อัฐิโบราณตั้งอยู่ในป่าที่บ้านโคกคลี อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ห่างจากปรางค์ไปทางทิศตะวันออกราว ๗ กิโลเมตร มีหินก้อนใหญ่ ที่นั่นเรียกกันว่าท่านางสระผม และห่างจากปรางค์ไปทางทิศตะวันตกราว ๑ กิโลเมตร มีบริเวณที่ราบกว้างใหญ่มีหญ้าขึ้นราวกับได้รับการดูแล ชาวบ้านเรียกสถานที่นั้นว่าโคกคลี

นิทานเรื่องนี้เล่าว่า ใกล้กับบริเวณนั้นเคยมีเมืองๆหนึ่ง ราชธิดาของกษัตริย์ผู้ครองเมืองนี้มีความงดงามยากที่จะหานางใดเสมอเหมือน ข้อสำคัญคือผมของนางมีกลิ่นหอม จึงได้รับการขนานนามว่านางผมหอม นางมักจะไปนั่งสระผมที่ก้อนหินใหญ่ริมธารน้ำ บริเวณที่ก้อนหินนั้นตั้งอยู่จึงเรียกกันว่าท่านางสระผม

วันหนึ่งขณะที่นางผมหอมกำลังสระผม ผมของนางร่วงหลุดลอยไปตามน้ำ กระแสน้ำพัดพาเส้นผมไปเรื่อยจนกระทั่งกษัตริย์หนุ่มอีกเมืองหนึ่งเก็บผมของนางได้ เมื่อได้กลิ่นหอมของเส้นผมแล้วทำให้อยากเห็นตัวเจ้าของ จึงได้ให้ข้าราชบริพารแยกย้ายกันออกตามหาหญิงผู้มีผมหอมประทับใจ ในที่สุดก็ทราบว่านางอยู่ที่ใด

เมื่อกษัตริย์หนุ่มได้พบกับนางผมหอมแล้ว ก็มีใจรักนางยิ่งนิก แต่อุปสรรคสำคัญคือนางมีคู่หมั้นเสียแล้ว และคู่มั่นของนางก็มิใช่ใครอื่น เป็นเพื่อนกับกษัตริย์องค์นั้นด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความรักสามเส้าระหว่างชายสองหญิงหนึ่ง กษัตริย์หนุ่มทั้งสองต่างก็พยายามให้ได้นางมาเป็นคู่ครองให้จงได้ ทั้งสองฝ่ายไม่ปราถนาจะสู้รบเพื่อแย่งชิงนาง แต่ได้ตกลงที่จะพนันตีคลี หากฝ่ายใดชนะ นางก็จะตกเป็นของผู้นั้น

การตีคลีแข่งขันชิงนางครั้งนั้นมีนางผมหอมเป็นพยาน ทั้งคู่ขับเคี่ยวกันเ็นเวลานานโดยไม่มีฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำแก่กัน ฝ่ายนางผู้เป็นคนกลางก็เผ้าดูการตีคลีด้วยความตื่นเต้นยิ่งนัก ใจเกิดความกังวลกลัดกลุ้มต่างๆนาๆ ในที่สุดไม่อาจทนทรมานใจได้จึงผูกคอตายเสียก่อนที่จะรู้ผลแพ้ชนะ



เมื่อกษัตริย์ที่มัวแต่สู้กันในเชิงตีคลีรู้เรื่องเข้าก็เสียใจมาก ชวนกันไปกระโดดน้ำตาย สถานที่นั้นเรียกว่าปากชวน เป็นที่ซึ่งแม่น้ำทั้งสองสายไหลมาบรรจบกัน

เมื่อนางผมหอมตายไป ศพของนางได้รับการบรรจุไว้ในปรางค์ที่มีชื่อต่อมาว่าปราสาทนางผมหอม ส่วนสถานที่ตีคลี ได้นามว่าโคกคลี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น